การพัฒนา ของ ไซเลนต์ฮิลล์: ออริจินส์

หลังจากการออกฉายของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากตัวเกม ทางโคนามิก็ได้พิจารณาแผนการนำเกมภาคแรกมาสร้างใหม่อีกครั้ง[3][4] โดยจะใช้ตัวละครโรส ดา ซิลวามาแทนที่แฮรี่ เมสัน ตัวเอกในเกมต้นฉบับ ซึ่งแผนการนี้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นทั้งจากการให้สัมภาษณ์ของคริสโตเฟอร์ เกนส์ ผู้กำกับ และข่าวรั่วจากทางโคนามิเองเรื่องเกมภาคต่อที่จะใช้ชื่อว่า Silent Hill: Original Sin สำหรับลงบนเครื่อง PSP[3] โดยในภายหลังโปรดิวเซอร์ของเกมภาคออริจินส์ วิลเลี่ยม โอเรเทล ได้ยินยันว่าไอเดียเรื่องการรีเมคเกมภาคแรกเคยได้รับการพิจารณาจากทางโคนามิจริง แต่ก็ถูกยกเลิกไป[5][6]

ออริจินส์มีข่าวประกาศเป็นครั้งแรกในงาน E3 ประจำปี พ.ศ. 2549 โดยเปิดเผยรูปแบบการเล่นหลักๆ และเนื้อเรื่องคร่าวๆ นอกจากนี้ยังมีการประกาศเรื่องของทีมสร้างที่จะไม่ใช่ Team Silent ของโคนามิอีกต่อไป แต่เป็น Climax Studio แทน[7] พล็อตเรื่องของเกมเขียนขึ้นโดยแซม บาร์โลว์[8] ซึ่งตกลงกับทาง Team Silent ให้ชื่อเรื่องเป็นที่ยอมรับ[9] ประกอบเกมภาคนี้ยังคงประพันธ์โดยอากิระ ยามาโอกะเช่นเดิม[5][7] ตัวอย่างการเล่นแรกของเกมเปิดเผยว่าจะยังคงใช้ระบบหลักๆเช่นการต่อสู้กับศัตรูแบบเดียวกับเกมภาคก่อนๆ แต่เพิ่มรูปแบบมุมกล้องเช่นเดียวกับเกม Resident Evil 4 เข้ามา[10][11] ทราวิสสามารถใช้อาวุธได้ 6 แบบ ประกอบด้วยอาวุธระยะประชิด 3 แบบ และอาวุธปืนอีก 3 แบบ ระบบอื่นๆของเกมที่เคยมีการวางแผนกันไว้เช่น การติดศูนย์เล็งด้วยเลเซอร์ลงบนอาวุธปืน และการใช้ระบบสิ่งกีดขวาง โดยเอาวัตถุในฉากมาช่วยป้องกันการโจมตีของศัตรูได้[10][12] ระบบเกมทั้งหมดนี้ทำให้เกมนี้มีแผนวางจำหน่ายในปลายปี พ.ศ. 2549[13]

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ทางทีมไคลแม็กซ์อเมริกาซึ่งดำเนินการสร้างอยู่นั้น มีข่าวลือว่าถูกระงับ เนื่องจากการวางแผนงานที่แย่และเป็นไปได้ยาก ซึ่งอาจทำให้ท้ายสุดแล้วตัวเกมมีความยาวในการเล่นอยู่เพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น[14][15] ต่อมาจึงได้มีการย้ายงานผลิตไปสู่ทีมงานอื่นในสหราชอาณาจักรแทน เพื่อเป็นการยืนยันว่าตัวเกมที่ออกมาจะมีความรัดกุมมากขึ้น วันเปิดตัวยังได้ถูกเลื่อนออกไป[16] และให้บรรยากาศของความเป็นไซเลนท์ฮิลล์ในแบบที่แฟนเกมต้องการ ตัวอย่างการเล่นที่เปิดเผยต่อมาแสดงให้เห็นว่า ตัวเกมมีการเปลี่ยนแปลงจากครั้งแรกค่อนข้างมาก ย้อนกลับไปคล้ายเกมภาคก่อนหน้ามากขึ้น ตัดมุมกล้องแบบ Resident Evil 4 ออกไป[15][17] ตัวอย่างการเล่นนี้ได้เสียงตอบรับจากผู้ชมค่อนข้างดี[17][18]

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ตัวเกมเวอร์ชันเดโมถูกปล่อยให้ดาวน์โหลดกันบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งทางไคลแม็กซ์สตูดิโอปฏิเสธว่าเป็นแหล่งของไฟล์ที่หลุดรอดออกมา[19] ตัวเกมจริงออกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วนประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลียเป็นลำดับถัดมาในเดือนธันวาคม[20] (ซึ่งในญี่ปุ่นวางจำหน่ายในชื่อ Silent Hill Zero)[20] ในเดือนเดียวกันนั้น เว็บไซต์ Kotaku ได้รายงานข่าวเรื่องเกมนี้จะถูกพอร์ตลงบนเครื่องเพลย์สเตชัน 2 เพื่อเป็นการกระจายตัวเกมให้ถึงผู้เล่นส่วนมากมากขึ้น โดยจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2551[21] เมื่อถึงต้นเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 เว็บไซต์ แอมะซอน.คอม ก็เริ่มเปิดให้สั่งจองตัวเกมเวอร์ชันเครื่อง PS2 แม้ว่าทางโคนามิและไคลแม็กซ์จะยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการในเวลาก็ตาม[22] โดยโคนามิประกาศยืนยันเวอร์ชัน PS2 ในวันที่ 22 มกราคม 2008[23]

ดนตรีประกอบ

Silent Hill Zero Original Soundtracks ประพันธ์โดยอากิระ ยามาโอกะ และวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 25 มกราคม 2008 โดย Konami Music Entertainment[24]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไซเลนต์ฮิลล์: ออริจินส์ http://www.gamesindustry.biz/content_page.php?aid=... http://www.1up.com/do/newsStory?cId=3148821 http://www.1up.com/do/previewPage?cId=3158933 http://www.gameinformer.com/News/Story/200607/N06.... http://www.gamepro.com/article/reviews/145929/sile... http://www.gamerankings.com/htmlpages2/933072.asp http://www.gamerankings.com/htmlpages2/944634.asp http://uk.gamespot.com/psp/adventure/silenthillori... http://uk.gamespot.com/psp/adventure/silenthillori... http://uk.gamespot.com/psp/adventure/silenthillori...